เรื่องย่อ
The Kid Who Would Be King หรือชื่อไทยว่า หนุ่มน้อยสู่จอมราชันย์ เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัย–แฟนตาซีที่เล่าเรื่องของ “อเล็กซ์” (รับบทโดย Louis Ashbourne Serkis) เด็กชายวัย 12 ปีผู้ใช้ชีวิตธรรมดาแต่ต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งในโรงเรียน จนวันหนึ่งเขาไปพบดาบลึกลับที่ปักอยู่ในหินกลางซากอาคาร และเมื่อดึงมันออกมาได้ เขาก็รู้ว่ามันคือ “เอ็กซ์คาลิเบอร์” — ดาบในตำนานของกษัตริย์อาเธอร์
อเล็กซ์กลายเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นผู้นำเหล่าอัศวินรุ่นเยาว์เพื่อปกป้องโลกจาก “มอร์แกน เลอ เฟย์” (Rebecca Ferguson) แม่มดผู้ชั่วร้ายที่กำลังฟื้นคืนชีพมาครอบงำโลกมนุษย์ในยุคปัจจุบัน เขาต้องร่วมมือกับเพื่อนที่เคยเป็นศัตรู เพื่อพิสูจน์ว่าความกล้าหาญและความดีงามยังคงมีค่าเหนือทุกสิ่ง
รีวิวหนัง
ผลงานกำกับและเขียนบทโดย Joe Cornish ผู้สร้างชื่อจาก “Attack the Block” ครั้งนี้เขาหยิบตำนานกษัตริย์อาเธอร์มาเล่าในมุมใหม่ที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย หนังมีโทนอบอุ่น สนุก และให้ข้อคิดเรื่อง “การเป็นผู้นำโดยไม่ต้องยิ่งใหญ่” ผ่านสายตาเด็ก ๆ ที่ต้องรับผิดชอบต่อโลกที่ใหญ่กว่าตัวเอง
แม้หนังจะถูกจัดอยู่ในหมวด “หนังครอบครัว” แต่จริง ๆ แล้วมีความลึกในประเด็นจิตใจและศีลธรรมมากกว่าที่คิด อีกทั้งยังมีการผสมเทคนิค CG และ practical effect ที่ลงตัว เพลงประกอบของ Electric Wave Bureau ก็ช่วยขับอารมณ์ได้ดีในทุกจังหวะของเรื่อง
สปอยล์แบบละเอียด
หลังจากอเล็กซ์ดึงดาบออกจากหิน เขาได้รับการปรากฏตัวจาก “เมอร์ลิน” (รับบทโดย Angus Imrie และ Patrick Stewart ในร่างแก่) ที่มาบอกว่าโลกกำลังจะถูกทำลายโดยมอร์แกน เลอ เฟย์ เด็กชายต้องรวบรวม “อัศวินสี่คน” — ตัวเขา เพื่อนซี้ และสองเด็กเกเรที่เคยรังแกเขา เพื่อออกเดินทางตามเส้นทางของวีรบุรุษ
ระหว่างทางพวกเขาได้เผชิญกับกองทัพปีศาจเหล็กจากนรก และต้องเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน อเล็กซ์เริ่มเข้าใจความหมายของการเป็นผู้นำที่แท้จริง — ไม่ใช่การออกคำสั่ง แต่คือการเสียสละและศรัทธาในพลังของมิตรภาพ
ในฉากไคลแมกซ์ มอร์แกนเลอเฟย์ถูกปราบลงด้วยพลังแห่งความกล้าและแสงของดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ เมื่อทุกอย่างจบลง เมอร์ลินก็จากไป และอเล็กซ์นำดาบกลับไปปักในหินอีกครั้งเพื่อรอ “วีรบุรุษรุ่นต่อไป”
บทวิจารณ์และคะแนน
“The Kid Who Would Be King” เป็นหนังที่ให้พลังบวกสูงมากสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่กำลังเผชิญกับการกลั่นแกล้งหรือความไม่มั่นใจในตัวเอง มันสอนให้รู้ว่าความดีไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ — เพียงแค่กล้าและไม่ยอมแพ้ในสิ่งที่ถูกต้อง
จุดเด่น: โครงเรื่องสร้างแรงบันดาลใจ CG สวย ดนตรีเข้ากับบรรยากาศ
จุดอ่อน: ความยาวหนังอาจยืดสำหรับผู้ใหญ่ และ pacing ช่วงต้นค่อนข้างช้า
คะแนน IMDb: 6.1/10
คะแนนผู้เขียน: 7.5/10
ตัวอย่างภาพยนตร์
สรุป
“The Kid Who Would Be King” คือหนังที่เหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นที่กำลังค้นหาความกล้าในตัวเอง หนังเต็มไปด้วยความอบอุ่น มิตรภาพ และข้อคิดที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง มันเตือนเราว่าทุกคนสามารถเป็น “ราชันย์” ได้ หากกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง
